10 อันดับฉลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หน้า 1 จาก 1
10 อันดับฉลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก
10)ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่ (Bigeye
Thresher shark) - Alopias superciliosus
ยาว: ~4.6เมตร... ตัวเมีย: 12-13.5เมตร…ตัวผู้: 2.7-4.1เมตร
หนัก: ~360.6กก.
ฉลาม
เทรเชอร์ตาใหญ่สามารถพบได้ในเขตมหาสมุทรที่ลึก
~500เมตรขึ้นไปแถวเส้นศูนย์สูตรทั่วโลก
มันเป็นฉลามที่มีร่างกายสีเทาออกม่วงซึ่งเป็นสีที่เข้ากับสภาพรอบข้างได้อย่างดี คำว่า “superciliosus”
ที่อยู่ในชื่อทางวิทยาศาสตร์ของฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่นั้นแปลว่า “อวดดี”
ซึ่งก็เหมาะกับหางยาวเว่อร์ของมัน ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่ได้ชื่อมาจากตายักษ์รูปร่าง
เหมือนลูกแพร์กลับหัวที่ใหญ่ออกไปจนถึงส่วนหัวด้านบน
ลูกตาของฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่นั้นสูง ~10ซม.
ซึ่งเมื่อเทียบกับขนาดร่างกายแล้วคือลูกตาที่ใหญ่ที่สุดในหมู่สัตว์ที่
กระดูกสันหลังที่ไม่ใช่นกด้วยกัน
ตาของฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่นี้คือการปรับตัวให้เข้ากับความมืดมิดของน้ำทะเล
โดยตาของมันช่วยในการรับแสงน้อยนิดให้มากขึ้น นอกจากนี้
ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่ยังปรับตัวให้เข้ากลับน้ำทะเลเย็นๆโดยการมีร่างกายที่
ค่อนข้างอุ่น ซึ่งร่างกายของมันนั้นมีอุณหภูมิ 2-4 ºC มากกว่าน้ำรอบตัว
ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่เป็นักล่าที่ตื่นตัวและล่าเหยื่อหลายชนิด
โดยฟันของมันนั้นแหลมกว่าฟันของฉลามเทรเชอร์อื่นๆซึ่งช่วยให้มันสามารถจับ
อะไรก็ตามที่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้
เหยื่อหลักๆของฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่นั้นมีไปตั้งแต่ปลาตัวเล็กถึงใหญ่และหมึก
ชนิดต่างๆ ซึ่งมันจะล่าเหยื่อโดยใช้ครีบหางด้านบนยาวๆนั้นตี
ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 12-13ปีและตัวผู้
9-10ปี ลูกฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่เกิดใหม่ยาว
70-106ซม.และเป็นพวกovoviviparity
ซึ่งแปลว่ามันจะออกจากไข่และเติบโตไปเรื่อยๆภายในมดลูกของแม่จนถึงวันคลอด
9) ฉลามซิ๊กกิลจมูกทู่ (Bluntnose Sixgill Shark) - Hexanchus griseusยาว: ~4.8เมตร
ฉลาม
ซิ๊กกิลจมูกทู่คือฉลามที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 9ของโลก
ซึ่งชื่อเรียกทั่วไปของมันนั้นคือ ฉลามแม่วัว
ฉลามซิ๊กกิลจมูกทู่เป็นฉลามในวงศ์ Hexanchidae ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ในนั้นสูญพันธุ์กันไปหมดแล้ว
[b] ฉลามเทรเชอร์ (Thresher Shark) - Alopias vulpinusยาว: ~5.5เมตร...ตัวเมีย: ~3เมตร…ตัวผู้: ~5.1-6.1เมตรหนัก: ~499กก.
ฉลาม
เทรเชอร์ก็เป็นฉลามที่ใกล้เคียงกับเจ้าอันดับ 10ข้างบน
ซึ่งมันก็อาศัยอยู่ในน่านน้ำลูกแถบเขตเส้นศูนย์สูตรเหมือนกัน
(อเมริกาและเอเชียที่ความลึก ~500เมตร)
แต่ฉลามเทรเชอร์มักจะว่ายน้ำเข้ามาใกล้ชายฝั่งและน้ำตื้นมากกว่า
ฉลามเทรเชอร์อาจจะดูผอม
แต่ที่จริงแล้วร่างกายของมันนั้นเต็มไปด้วยมัดกล้ามและหนักน่าดู
ฉลามเทรเชอร์ยังถูกเรียกว่า “ฉลามแทรชเชอร์”
ด้วยเพราะหางของมันนั้นยาวและมีรูปร่างเหมือนรุ้ง
(แทรชเชอร์คือนกชนิดหนึ่งที่ไม่มีสีรุ้งอยู่เลย
ซึ่งคนเขียนก็ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันยังไง) โดยหางของฉลามเทรเชอร์นั้นยาวถึง
50%ของร่างกายและหนักถึง 33% ซึ่งแปลว่าแค่หางอย่างเดียวนี้ก็ปาเข้าไป
~347.9กก.แล้ว
ฉลามเทรเชอร์เป็นนักล่าโดดเดี่ยวที่ใช้หางยาวๆในการต้อนและตีเหยื่อ เทคนิคการ
ล่าเหยื่อของฉลามเทรเชอร์จะเริ่มต้นด้วยการกวนน้ำรอบๆฝูงปลาเพื่อกักพวกมัน
ไว้ในน้ำวนเล็กๆ
ซึ่งทำให้พวกปลานั้นตกใจกลัวและไปรวมตัวกันอยู่ตรงกลางน้ำวน หลังจากนั้น
ฉลามเทรเชอร์ก็จะว่ายผ่าฝูงปลาที่กำลังตื่นตระหนกด้วยปากเปิดกว้างและงาบ
เหยื่อไป ฉลามเทรเชอร์มีฟันและขากรรไกรเล็ก นอกจากนี้ ครีบหลังอันที่
2ของมันนั้นก็สั้นกว่าอันแรกมาก
ฉลามเทรเชอร์เป็นฉลามที่สามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วหรือแม้แต่กระโดดออมา
จากน้ำเมื่อถูกรบกวน ฉลามเทรเชอร์ออกลูกครั้งละ 2-6ตัวในแบบ
ovoviviparous เหมือนอันดับ 10ข้างต้นและลูกๆนั้นอาจจะกินกันเองเมื่ออยู่ในมดลูก ลูกฉลามเทรเชอร์เกิดใหม่นั้นยาว 1.5เมตร
[b]7) ฉลามหัวค้อนใหญ่ (Great hammerhead Shark) -
Sphyrna mokarranยาว: ~4-6.1เมตรหนัก: ~459กก.
Sphyrna
นั้นมาจากภาษากรีกแปลว่า “ค้อน”
ฉลามหัวค้อนใหญ่เป็นฉลามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่ฉลามหัวค้อนทั้ง 9สปีชีส์
มันสามารถพบได้ในมหาสมุทรเขตเส้นศูนย์สูตรทั่วโลกและสามารถพบได้ทั้งใกล้และ
ไกลชายฝั่งถึง ~80เมตร
ฉลามหัวค้อนใหญ่เป็นฉลามที่ชอบอยู่ตามแนวปะการังที่ลึกถึง
~80เมตรซึ่งเราจะเห็นได้มากตอนที่พวกมันอพยพไปน่านน้ำที่เย็นกว่าในฤดูร้อน
ฉลามหัวค้อนใหญ่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติมากนักถ้าไม่นับมนุษย์
ฉลามหัวค้อนใหญ่มีรูปร่างประหลาด
โดยมันมีปากใหญ่และหัวรูปร่างเหมือนค้อนซึ่งตรงปลายค้อนนั้นคือที่ตั้งของตา
ทั้งสอง
ซึ่งหัวแปลกประหลาดนี้ที่จริงแล้วคือการวิวัฒนาการมาเพื่อบอกทางในน้ำได้ดี
และมองเห็นได้กว้างขึ้นมากกว่าฉลามชนิดอื่น
ฉลามหัวค้อนใหญ่มีสีเทา-น้ำตาลไปจนถึงสีเขียวมะกอกและใต้ท้องสีขาว
อาหารของฉลามหัวค้อนใหญ่นั้นได้แก่ปลากระดูกแข็ง, ฉลามที่ตัวเล็กกว่า, ปู,
ปลาสเก็ต, หมึก
แต่อาหารที่มันโปรดปรานมากที่สุดนั้นคือปลากระเบน ฉลามหัวค้อนใหญ่ใช้อวัยวะรับความรู้สึกชื่อ Ampullae of
Lorenzini ในการตรวจหาสนามไฟฟ้าที่เหยื่อปล่อยออกมาและถ้ามันเจอปลากระเบน
มันก็จะใช้หัวค้อนนั้นกดเจ้าปลามีปีกไว้กับพื้นทะเลและใช้ฟันแหลมคมรูปสาม
เหลี่ยมเหมือนเลื่อยปลิดชีวิต
ฉลามหัวค้อนใหญ่ที่หนักที่สุดเท่าที่เคยจับได้นั้นเป็นตัวเมียที่หนัก
580.59กก. ฉลามหัวค้อนใหญ่มีอายุขัย 20-30ปี
ตัวเมียนั้นจะให้กำเนิดลูกจำนวน
6-50ตัวซึ่งลูกฉลามเกิดใหม่นั้นมีหัวที่กลมกว่าตัวโตเต็มวัย โดยทั่วไปแล้ว
การทำร้ายคนของฉลามหัวค้อนใหญ่นั่นเคยเกิดขึ้นแต่ไม่บ่อยนัก เพราะฉะนั้น
ใครที่จะลงเล่นน้ำในที่ๆพวกมันอยู่ก็ควรจะระวังเจ้าสัตว์ฟันเต็มปากตัวนี้
ไว้
[b]6) ฉลามกรีนแลนด์ (Greenland Shark) - Somniosus microcephalusยาว: ~6.4เมตร (ใหญ่กว่านี้ยังไม่เคยพบ แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันอาจจะยาวกว่าฉลามขาวยักษ์ก็เป็นได้)
เจ้าตัวนี่ก็เป็นอีกตัวที่เคยเขียนไปแล้ว ซึ่งก็ไปอ่านได้ที่ http://writer.dek-d.com/dek-d/story/viewlongc.php?id=687461&chapter=64...ฉลาม
กรีนแลนด์เป็นฉลามขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่ปลาสุนัขที่ยังรู้จักกันในชื่อ
“ฉลามสลี๊ปเปอร์
(เพราะมันไม่ค่อยตื่นตัวซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าหลับอยู่ตลอด),”
“ฉลามเกอร์รี่,”
“ฉลามดิน,”
“ฉลามสีเทา,” หรือ “Inuit Eqalussuaq”
ฉลามกรีนแลนด์เป็นฉลามขนาดใหญ่ที่สามารถพบได้ในน่านน้ำเย็นเยือกเขต
แอตแลนติกเหนือโดยเฉพาะน่านน้ำใกล้ประเทศกรีนแลนด์และไอซ์แลนด์
ซึ่งมันสามารถพบได้ในความลึก
~2,012เมตรใต้ระดับน้ำทะเลแต่ก็มีการพบมันที่ความลึก
~7.3เมตรในน้ำตื้นเหมือนกัน
ฉลามกรีนแลนด์จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นเฉพาะตอนที่อุณหภูมิผิวน้ำนั้นเย็นประมาณ
0.56ºC
ชีวิตของฉลามกรีนแลนด์ในน่านน้ำเย็นเยือกนั้นอาจจะเป็นอะไรที่โดดเดี่ยว
แต่มันก็มีเพื่อนตายชนิดหนึ่งซึ่งก็คือ พาราไซส์โค๊ปพ๊อด
ที่อาศัยอยู่บนตาและกินเนื้อเยื่อ corneal
เป็นอาหาร...พอคุณอ่านแล้วก็อาจจะสงสัยว่าเจ้า
2ตัวนี้เป็นเพื่อนแบบไหนกัน...พาราไซส์โค๊ปพ๊อดนั้นอาจจะสร้างความเสียหาย
ให้ฉลามกรีนแลนด์จริงอยู่ แต่มันก็ทำให้ตาของฉลามกรีนแลนด์นั้นเรืองแสง
(พาราไซส์โค๊ปพ๊อดเรืองแสงได้) และช่วยล่อเหยื่อเข้ามา
ซึ่งเหยื่อหลักๆของฉลามกรีนแลนด์นั้นได้แก่ปลา
แต่มันก็อาจจะจะล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทะเลขนาดใหญ่อย่างแมวน้ำด้วยเหมือน
กัน นอกจากนี้ ฉลามกรีนแลนด์ยังจะกินอะไรก็ตามที่ดูเหมือนอาหาร
ซึ่งในการผ่าท้องของฉลามกรีนแลนด์
นักวิทยาศาสตร์ได้พบชิ้นส่วนของม้าและหมีขั้วโลก
และกวางเรนเดียร์ทั้งตัวกับเขาอยู่ข้างใน
5) ฉลามแปซิฟิก สลี๊ปเปอร์ (Pacific Sleeper Shark) - Somniosus pacificusยาว:
~7เมตร
หนัก:
~362.9กก.
ฉลามแปซิฟิก สลี๊ปเปอร์เป็นฉลามขนาดใหญ่ในวงศ์ Somniosidae
มันสามารถพบได้ในน่านน้ำอุ่นถึงเย็นทั่วไประหว่างละติจูดที่70°เหนือ และ
47°ในความลึกตั้งแต่จากผิวน้ำไปถึง 2,000เมตรใต้ทะเล
(พบมันได้ในที่ลึกในน่านน้ำอุ่น และพบมันได้ในที่ตื้นในน่านน้ำเย็น)
เพราะความที่ฉลามแปซิฟิก สลี๊ปเปอร์อยู่ในน้ำลึกและเย็นมาก (4ºC)
ตับของมันจึงไม่มี Squalene
เพราะเจ้าสารนี้จะแข็งตัวและไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายเลย
เนื้อของฉลามแปซิฟิก
สลี๊ปเปอร์นั้นมียูเรียปริมาณน้อยแต่มีไนโตรเจนเสียชื่อ“TMAO” เข้มข้นมาก
ซึ่งจะไปช่วยทำให้โปรตีนที่อยู่ในกล้ามเนื้อมั่นคงอยู่ได้ในความลึกสุดยอด
นอกจากนี้ ฉลามแปซิฟิก
สลี๊ปเปอร์ยังได้ปรับตัวให้เข้ากับทะเลลึกที่ไม่ค่อยมีอาหารกินโดยการพัฒนา
ความสามารถการกักเก็บอาหารไว้ในกระเพาะความจุมาก (จุมากถึง136กก.) ได้
ขากรรไกรของฉลามแปซิฟิก
สลี๊ปเปอร์นั้นสั้นและเรียงในแนวขวางซึ่งทำให้มันสามารถกระชากเนื้อออกจาก
เหยื่อที่มีหนังหนาๆได้ เหยื่อของฉลามแปซิฟิก สลี๊ปเปอร์ได้แก่
หมึกทั้งหลาย, หอยทากทะเล, ปู, ปูเสฉวน, แมวน้ำและโลมา ฉลามแปซิฟิก
สลี๊ปเปอร์ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่อมีความยาว 3.7เมตรและตัวผู้
4เมตร มันตั้งท้องนาน 2ปีขึ้นไปและออกลูกครั้งละ 10ตัว
ลูกฉลามเกิดใหม่นั้นยาว 38-42ซม.
[b]4) ฉลามเสือ (Tiger Shark) - Galeocerdo cuvierยาว: ~7.4เมตร
หนัก:
~907.2กก.
ฉลามเสือนั้นอาศัยอยู่ใน
น่านน้ำทั้งใกล้และไกลฝั่งและตั้งแต่ผิวน้ำไปถึงความลึก ~140เมตร
ซึ่งมันอาจจะเดินทางได้ไกลเป็นพันๆกิโลเมตรระหว่างทวีป
ฉลามเสืออายุน้อยนั้นจะมีร่างกายสีเทา,
ท้องสีขาวและลายสีดำบนหลังเหมือนลายเสือ
ซึ่งลายนี้จะจางหายไปเมื่ออายุมากขึ้นและทำให้มันดูเหมือนฉลามขาวมากกว่า
ฉลามเสือตัวที่ใหญ่ที่สุดคือตัวเมียที่ยาว ~7.3เมตร
ฉลามเสือเป็นสัตว์หากินกลางคืนดุร้ายที่ชอบอาศัยอยู่ในน้ำมืดๆขุ่นๆ
แต่มันก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในแม่น้ำและน้ำกร่อยได้
ฉลามเสือเป็นสัตว์สันโดษที่มักจะพบได้มากในน้ำลึกตอนกลางวัน
และเมื่อกลางคืนมาถึง
มันก็ว่ายขึ้นผิวน้ำหรือเข้าฝั่งมาเพื่อจับอะไรก็ตามที่ผ่านสายตามันทำข้าว
เย็นกิน
ซึ่งมันก็มีฟันแบนๆโค้งๆรูปร่างเหมือนเลี่อยที่สามารถตัดกระดองเต่าได้เพื่อ
การนี้โดยเฉพาะ นอกจากเต่าแล้ว อาหารปรกติของฉลามเสือก็ได้แก่
ปลากระดูกแข็ง, หอยสังข์, ปู, นก, ล๊อบส์เตอร์, ปลาสเก็ต, ปลากระเบน,
โลมาหรือแม้แต่คนถ้าเขาโชคร้ายพอที่จะมาขวางทางว่ายน้ำของมัน นอกจากนี้
ฉลามเสือก็ยังจะกินซากสัตว์ตายที่โดยน้ำพัดลงทะเล เช่น หนูตาย,
สัตว์เลี้ยงตายและซากปศุสัตว์อีกด้วย
ของแปลกๆที่เคยพบในกระเพาะของฉลามเสือตัวหนึ่งได้แก่ รองเท้า 9ข้าง,
กลุ่มสุนัข, ใบขับขี่, กีบเท้าวัว, เขากวาง, เกราะนักรบสมัยกลาง,
และสุ่มไก่ที่มีขนไก่ติดอยู่
[b]3) ฉลามขาวยักษ์ (Great White Shark) -Carcharodon carchariasยาว: ~8เมตรหนัก: ~2,268กก.
ฉลามขาวยักษ์เป็นฉลามสปีชีส์สุดท้ายของฉลามวงศ์ Carcharodon
ที่เรารู้จักกันดีในบทวายร้ายในภาพยนตร์เรื่อง
“Jaws” ฉลามขาวยักษ์นั้นอาศัยอยู่ในน้ำที่มีความลึกตั้งแต่ผิวน้ำไปถึง
~1,219.2เมตร
ฉลามขาวยักษ์เป็นปลานักล่าขนาดใหญ่ที่สุดที่ดุร้ายและทรงพลังซึ่งสามารถฆ่า
คนได้ในการดกัดแค่ครั้งเดียว
แต่การกัดคนของมันนั้นไม่ได้มาจากความรักรสชาติมนุษย์ของมัน การศึกษาพบว่า
นักโต้คลื่นและผู้คนที่ว่ายน้ำอยู่ในที่ๆฉลามขาวยักษ์อยู่นั้นได้ไปทำให้มัน
เข้าใจผิดว่าคนเหล่านี้คืออาหารอันโปรดปรานของมัน ซึ่งในการทดลอง
เจ้าฉลามขาวยักษ์ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับหุ่นนักโต้คลื่นปลอมเลย
อาหารอันโปรดปรานของฉลามขาวยักษ์นั้นได้แก่ ปลา เช่น ปลาแซลมอน, ปลาเฮก,
ปลาฮาลิบัต, ปลาเมกเคอเรล, และปลาทูน่า นอกจากนี้
ฉลามขาวยักษ์ยังกินฉลามตัวอื่นๆ, ไขมันวาฬจากซากวาฬ, เต่าทะเล, นก,
แมวน้ำและโลมา การล่าเหยื่อของฉลามขาวยักษ์เป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก
ซึ่งมันจะโจมตีเหยื่อจากข้างใต้ด้วยปากเปิดที่เต็มไปด้วยฟันรูปร่างเหมือน
ลูกธนู ถ้าคุณสนใจจะกินครีบฉลามขาวยักษ์
ขอบอกว่าเลิกคิดซะเถอะเพราะเนื้อของมันนั้นประกอบด้วยปรอทปริมาณมาก
[b]2) ฉลามบาสกิ้ง (Basking Shark) - Cetorhinus maximusยาว: ~12.3เมตรหนัก: ~3,630กก.
เจ้าฉลามยักษ์ใหญ่นี้ถึงจะ
ดูน่ากลัวแต่มันไม่ได้เป็นนักล่ากระหายเลือดเหมือนตัวที่ผ่านๆมา
ฉลามบาสกิ้งเป็นยักษ์ใหญ่ใจดีที่สามารถโตได้ถึง
10เมตรและหนักได้เท่าๆกับเครื่องบินเจ็ท 4ที่นั่ง
มันเป็นนักว่ายน้ำที่เชื่องช้าไปเรื่อยๆโดยการส่ายตัวทั้งตัวซ้าย-ขวาด้วย
ความเร็วแค่ ~4.8กม. ต่อ ชม. เท่านั้น
ฉลามบาสกิ้งสามารถพบได้ใกล้ๆกับผิวน้ำ
แต่บางครั้งมันก็จะลงน้ำลึกไปในช่วงฤดูหนาวเพื่อหลีกเลี่ยงกระแสน้ำเย็น
เฉียบ ฉลามบาสกิ้งเป็นสัตว์ที่กินอาหารขนาดกระจิ๊ดริดขัดกับขนาดร่างกาย
ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่ของมันนั้นได้แก่ แพลงค์ตอน, ไข่ปลา,
ตัวอ่อนและพาราไซส์โค๊ปพอด (<--สัตว์มีกระดองขนาดเล็ก)
ฉลามบาสกิ้งจะกินอาหารโดยการกรองกิน โดยมันจะว่ายน้ำไปด้วยปาก
(ตั้งอยู่ข้างหลังลูกตา) ที่เปิดกว้างและกรองอาหารปริมาณ
~2,000ตันต่อชั่วโมง ซึ่งขนแข็งๆในปากที่เรียกว่า “gill raker”
จะกักพวกแพลงค์ตอนไว้และปล่อยให้น้ำผ่านออกไปทางเหงือก
ตับของฉลามบาสกิ้งนั้นหนักถึง
25%ของน้ำหนักตัวและเนื้อของมันนั้นก็ประกอบไปด้วยน้ำมันปริมาณ ~2,270ลิตร
[b]1) ฉลามวาฬ (Whale Shark) - Rhiniodon typusยาว: 5.5-10เมตรหนัก: 15ตัน
ฉลามวาฬเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำอุ่นทั่วโลกในความลึกตั้งแต่ผิวน้ำ –
700เมตร
มันเป็นยักษ์ใหญ่ใจดีอีกตัวที่กินแต่สัตว์เล็กๆอย่างแพลงค์ตอนและปลาตัวเล็ก
เท่านั้น การล่าเหยื่อของฉลามวาฬนั้นเรียกว่า “cross-flow filtration”
ซึ่งแบ่งเป็น2แบบได้แก่ 1)
การว่ายน้ำเข้าไปในฝูงปลาด้วยปากที่เปิดและส่ายปากไป-มาเพื่องาบเอาปลาเข้า
ไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
วิธีกินเหยื่อนี้ทำให้เจ้าฉลามวาฬกินอะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามา
ซึ่งในบางครั้งก็รวมถึง บู๊ทเก่าๆและขยะจากคน
เพื่อขจัดเจ้าสิ่งไม่ต้องการเหล่านี้
ฉลามวาฬได้พัฒนาความสามารถในการขย้อนกระเพาะอาหารออกมาทางปาก!!!
2) การตั้งตัวตรงและว่ายน้ำเข้าหาฝูงปากด้วยปากเปิดเหมือนวิธีแรก
ฉลามวาฬมีร่างกายสีเทาถึงน้ำตาล, ลายกับจุดสีขาวกระจายทั่วไป,
และใต้ท้องสีขาวซึ่งเป็นการพรางตัวให้เข้ากับแสงและสิ่งของบนพื้นทะเล
ฉลามวาฬตัวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับได้นั้นยาวถึง 12.2เมตร
(แต่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่ามันสามารถยาวได้มากกว่านี้)
ในประเทศเวียดนาม ฉลามวาฬนั้นรู้จักกันในชื่อ “คา-อง” ซึ่งแปลได้ว่า
“ท่านปลา”
[/b]
เครดิต : doghome[/b][/b][/b][/b][/b][/b]
Thresher shark) - Alopias superciliosus
ยาว: ~4.6เมตร... ตัวเมีย: 12-13.5เมตร…ตัวผู้: 2.7-4.1เมตร
หนัก: ~360.6กก.
ฉลาม
เทรเชอร์ตาใหญ่สามารถพบได้ในเขตมหาสมุทรที่ลึก
~500เมตรขึ้นไปแถวเส้นศูนย์สูตรทั่วโลก
มันเป็นฉลามที่มีร่างกายสีเทาออกม่วงซึ่งเป็นสีที่เข้ากับสภาพรอบข้างได้อย่างดี คำว่า “superciliosus”
ที่อยู่ในชื่อทางวิทยาศาสตร์ของฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่นั้นแปลว่า “อวดดี”
ซึ่งก็เหมาะกับหางยาวเว่อร์ของมัน ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่ได้ชื่อมาจากตายักษ์รูปร่าง
เหมือนลูกแพร์กลับหัวที่ใหญ่ออกไปจนถึงส่วนหัวด้านบน
ลูกตาของฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่นั้นสูง ~10ซม.
ซึ่งเมื่อเทียบกับขนาดร่างกายแล้วคือลูกตาที่ใหญ่ที่สุดในหมู่สัตว์ที่
กระดูกสันหลังที่ไม่ใช่นกด้วยกัน
ตาของฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่นี้คือการปรับตัวให้เข้ากับความมืดมิดของน้ำทะเล
โดยตาของมันช่วยในการรับแสงน้อยนิดให้มากขึ้น นอกจากนี้
ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่ยังปรับตัวให้เข้ากลับน้ำทะเลเย็นๆโดยการมีร่างกายที่
ค่อนข้างอุ่น ซึ่งร่างกายของมันนั้นมีอุณหภูมิ 2-4 ºC มากกว่าน้ำรอบตัว
ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่เป็นักล่าที่ตื่นตัวและล่าเหยื่อหลายชนิด
โดยฟันของมันนั้นแหลมกว่าฟันของฉลามเทรเชอร์อื่นๆซึ่งช่วยให้มันสามารถจับ
อะไรก็ตามที่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้
เหยื่อหลักๆของฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่นั้นมีไปตั้งแต่ปลาตัวเล็กถึงใหญ่และหมึก
ชนิดต่างๆ ซึ่งมันจะล่าเหยื่อโดยใช้ครีบหางด้านบนยาวๆนั้นตี
ฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 12-13ปีและตัวผู้
9-10ปี ลูกฉลามเทรเชอร์ตาใหญ่เกิดใหม่ยาว
70-106ซม.และเป็นพวกovoviviparity
ซึ่งแปลว่ามันจะออกจากไข่และเติบโตไปเรื่อยๆภายในมดลูกของแม่จนถึงวันคลอด
9) ฉลามซิ๊กกิลจมูกทู่ (Bluntnose Sixgill Shark) - Hexanchus griseusยาว: ~4.8เมตร
ฉลาม
ซิ๊กกิลจมูกทู่คือฉลามที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 9ของโลก
ซึ่งชื่อเรียกทั่วไปของมันนั้นคือ ฉลามแม่วัว
ฉลามซิ๊กกิลจมูกทู่เป็นฉลามในวงศ์ Hexanchidae ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ในนั้นสูญพันธุ์กันไปหมดแล้ว
[b] ฉลามเทรเชอร์ (Thresher Shark) - Alopias vulpinusยาว: ~5.5เมตร...ตัวเมีย: ~3เมตร…ตัวผู้: ~5.1-6.1เมตรหนัก: ~499กก.
ฉลาม
เทรเชอร์ก็เป็นฉลามที่ใกล้เคียงกับเจ้าอันดับ 10ข้างบน
ซึ่งมันก็อาศัยอยู่ในน่านน้ำลูกแถบเขตเส้นศูนย์สูตรเหมือนกัน
(อเมริกาและเอเชียที่ความลึก ~500เมตร)
แต่ฉลามเทรเชอร์มักจะว่ายน้ำเข้ามาใกล้ชายฝั่งและน้ำตื้นมากกว่า
ฉลามเทรเชอร์อาจจะดูผอม
แต่ที่จริงแล้วร่างกายของมันนั้นเต็มไปด้วยมัดกล้ามและหนักน่าดู
ฉลามเทรเชอร์ยังถูกเรียกว่า “ฉลามแทรชเชอร์”
ด้วยเพราะหางของมันนั้นยาวและมีรูปร่างเหมือนรุ้ง
(แทรชเชอร์คือนกชนิดหนึ่งที่ไม่มีสีรุ้งอยู่เลย
ซึ่งคนเขียนก็ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันยังไง) โดยหางของฉลามเทรเชอร์นั้นยาวถึง
50%ของร่างกายและหนักถึง 33% ซึ่งแปลว่าแค่หางอย่างเดียวนี้ก็ปาเข้าไป
~347.9กก.แล้ว
ฉลามเทรเชอร์เป็นนักล่าโดดเดี่ยวที่ใช้หางยาวๆในการต้อนและตีเหยื่อ เทคนิคการ
ล่าเหยื่อของฉลามเทรเชอร์จะเริ่มต้นด้วยการกวนน้ำรอบๆฝูงปลาเพื่อกักพวกมัน
ไว้ในน้ำวนเล็กๆ
ซึ่งทำให้พวกปลานั้นตกใจกลัวและไปรวมตัวกันอยู่ตรงกลางน้ำวน หลังจากนั้น
ฉลามเทรเชอร์ก็จะว่ายผ่าฝูงปลาที่กำลังตื่นตระหนกด้วยปากเปิดกว้างและงาบ
เหยื่อไป ฉลามเทรเชอร์มีฟันและขากรรไกรเล็ก นอกจากนี้ ครีบหลังอันที่
2ของมันนั้นก็สั้นกว่าอันแรกมาก
ฉลามเทรเชอร์เป็นฉลามที่สามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วหรือแม้แต่กระโดดออมา
จากน้ำเมื่อถูกรบกวน ฉลามเทรเชอร์ออกลูกครั้งละ 2-6ตัวในแบบ
ovoviviparous เหมือนอันดับ 10ข้างต้นและลูกๆนั้นอาจจะกินกันเองเมื่ออยู่ในมดลูก ลูกฉลามเทรเชอร์เกิดใหม่นั้นยาว 1.5เมตร
[b]7) ฉลามหัวค้อนใหญ่ (Great hammerhead Shark) -
Sphyrna mokarranยาว: ~4-6.1เมตรหนัก: ~459กก.
Sphyrna
นั้นมาจากภาษากรีกแปลว่า “ค้อน”
ฉลามหัวค้อนใหญ่เป็นฉลามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่ฉลามหัวค้อนทั้ง 9สปีชีส์
มันสามารถพบได้ในมหาสมุทรเขตเส้นศูนย์สูตรทั่วโลกและสามารถพบได้ทั้งใกล้และ
ไกลชายฝั่งถึง ~80เมตร
ฉลามหัวค้อนใหญ่เป็นฉลามที่ชอบอยู่ตามแนวปะการังที่ลึกถึง
~80เมตรซึ่งเราจะเห็นได้มากตอนที่พวกมันอพยพไปน่านน้ำที่เย็นกว่าในฤดูร้อน
ฉลามหัวค้อนใหญ่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติมากนักถ้าไม่นับมนุษย์
ฉลามหัวค้อนใหญ่มีรูปร่างประหลาด
โดยมันมีปากใหญ่และหัวรูปร่างเหมือนค้อนซึ่งตรงปลายค้อนนั้นคือที่ตั้งของตา
ทั้งสอง
ซึ่งหัวแปลกประหลาดนี้ที่จริงแล้วคือการวิวัฒนาการมาเพื่อบอกทางในน้ำได้ดี
และมองเห็นได้กว้างขึ้นมากกว่าฉลามชนิดอื่น
ฉลามหัวค้อนใหญ่มีสีเทา-น้ำตาลไปจนถึงสีเขียวมะกอกและใต้ท้องสีขาว
อาหารของฉลามหัวค้อนใหญ่นั้นได้แก่ปลากระดูกแข็ง, ฉลามที่ตัวเล็กกว่า, ปู,
ปลาสเก็ต, หมึก
แต่อาหารที่มันโปรดปรานมากที่สุดนั้นคือปลากระเบน ฉลามหัวค้อนใหญ่ใช้อวัยวะรับความรู้สึกชื่อ Ampullae of
Lorenzini ในการตรวจหาสนามไฟฟ้าที่เหยื่อปล่อยออกมาและถ้ามันเจอปลากระเบน
มันก็จะใช้หัวค้อนนั้นกดเจ้าปลามีปีกไว้กับพื้นทะเลและใช้ฟันแหลมคมรูปสาม
เหลี่ยมเหมือนเลื่อยปลิดชีวิต
ฉลามหัวค้อนใหญ่ที่หนักที่สุดเท่าที่เคยจับได้นั้นเป็นตัวเมียที่หนัก
580.59กก. ฉลามหัวค้อนใหญ่มีอายุขัย 20-30ปี
ตัวเมียนั้นจะให้กำเนิดลูกจำนวน
6-50ตัวซึ่งลูกฉลามเกิดใหม่นั้นมีหัวที่กลมกว่าตัวโตเต็มวัย โดยทั่วไปแล้ว
การทำร้ายคนของฉลามหัวค้อนใหญ่นั่นเคยเกิดขึ้นแต่ไม่บ่อยนัก เพราะฉะนั้น
ใครที่จะลงเล่นน้ำในที่ๆพวกมันอยู่ก็ควรจะระวังเจ้าสัตว์ฟันเต็มปากตัวนี้
ไว้
[b]6) ฉลามกรีนแลนด์ (Greenland Shark) - Somniosus microcephalusยาว: ~6.4เมตร (ใหญ่กว่านี้ยังไม่เคยพบ แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันอาจจะยาวกว่าฉลามขาวยักษ์ก็เป็นได้)
เจ้าตัวนี่ก็เป็นอีกตัวที่เคยเขียนไปแล้ว ซึ่งก็ไปอ่านได้ที่ http://writer.dek-d.com/dek-d/story/viewlongc.php?id=687461&chapter=64...ฉลาม
กรีนแลนด์เป็นฉลามขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่ปลาสุนัขที่ยังรู้จักกันในชื่อ
“ฉลามสลี๊ปเปอร์
(เพราะมันไม่ค่อยตื่นตัวซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าหลับอยู่ตลอด),”
“ฉลามเกอร์รี่,”
“ฉลามดิน,”
“ฉลามสีเทา,” หรือ “Inuit Eqalussuaq”
ฉลามกรีนแลนด์เป็นฉลามขนาดใหญ่ที่สามารถพบได้ในน่านน้ำเย็นเยือกเขต
แอตแลนติกเหนือโดยเฉพาะน่านน้ำใกล้ประเทศกรีนแลนด์และไอซ์แลนด์
ซึ่งมันสามารถพบได้ในความลึก
~2,012เมตรใต้ระดับน้ำทะเลแต่ก็มีการพบมันที่ความลึก
~7.3เมตรในน้ำตื้นเหมือนกัน
ฉลามกรีนแลนด์จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นเฉพาะตอนที่อุณหภูมิผิวน้ำนั้นเย็นประมาณ
0.56ºC
ชีวิตของฉลามกรีนแลนด์ในน่านน้ำเย็นเยือกนั้นอาจจะเป็นอะไรที่โดดเดี่ยว
แต่มันก็มีเพื่อนตายชนิดหนึ่งซึ่งก็คือ พาราไซส์โค๊ปพ๊อด
ที่อาศัยอยู่บนตาและกินเนื้อเยื่อ corneal
เป็นอาหาร...พอคุณอ่านแล้วก็อาจจะสงสัยว่าเจ้า
2ตัวนี้เป็นเพื่อนแบบไหนกัน...พาราไซส์โค๊ปพ๊อดนั้นอาจจะสร้างความเสียหาย
ให้ฉลามกรีนแลนด์จริงอยู่ แต่มันก็ทำให้ตาของฉลามกรีนแลนด์นั้นเรืองแสง
(พาราไซส์โค๊ปพ๊อดเรืองแสงได้) และช่วยล่อเหยื่อเข้ามา
ซึ่งเหยื่อหลักๆของฉลามกรีนแลนด์นั้นได้แก่ปลา
แต่มันก็อาจจะจะล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทะเลขนาดใหญ่อย่างแมวน้ำด้วยเหมือน
กัน นอกจากนี้ ฉลามกรีนแลนด์ยังจะกินอะไรก็ตามที่ดูเหมือนอาหาร
ซึ่งในการผ่าท้องของฉลามกรีนแลนด์
นักวิทยาศาสตร์ได้พบชิ้นส่วนของม้าและหมีขั้วโลก
และกวางเรนเดียร์ทั้งตัวกับเขาอยู่ข้างใน
5) ฉลามแปซิฟิก สลี๊ปเปอร์ (Pacific Sleeper Shark) - Somniosus pacificusยาว:
~7เมตร
หนัก:
~362.9กก.
ฉลามแปซิฟิก สลี๊ปเปอร์เป็นฉลามขนาดใหญ่ในวงศ์ Somniosidae
มันสามารถพบได้ในน่านน้ำอุ่นถึงเย็นทั่วไประหว่างละติจูดที่70°เหนือ และ
47°ในความลึกตั้งแต่จากผิวน้ำไปถึง 2,000เมตรใต้ทะเล
(พบมันได้ในที่ลึกในน่านน้ำอุ่น และพบมันได้ในที่ตื้นในน่านน้ำเย็น)
เพราะความที่ฉลามแปซิฟิก สลี๊ปเปอร์อยู่ในน้ำลึกและเย็นมาก (4ºC)
ตับของมันจึงไม่มี Squalene
เพราะเจ้าสารนี้จะแข็งตัวและไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายเลย
เนื้อของฉลามแปซิฟิก
สลี๊ปเปอร์นั้นมียูเรียปริมาณน้อยแต่มีไนโตรเจนเสียชื่อ“TMAO” เข้มข้นมาก
ซึ่งจะไปช่วยทำให้โปรตีนที่อยู่ในกล้ามเนื้อมั่นคงอยู่ได้ในความลึกสุดยอด
นอกจากนี้ ฉลามแปซิฟิก
สลี๊ปเปอร์ยังได้ปรับตัวให้เข้ากับทะเลลึกที่ไม่ค่อยมีอาหารกินโดยการพัฒนา
ความสามารถการกักเก็บอาหารไว้ในกระเพาะความจุมาก (จุมากถึง136กก.) ได้
ขากรรไกรของฉลามแปซิฟิก
สลี๊ปเปอร์นั้นสั้นและเรียงในแนวขวางซึ่งทำให้มันสามารถกระชากเนื้อออกจาก
เหยื่อที่มีหนังหนาๆได้ เหยื่อของฉลามแปซิฟิก สลี๊ปเปอร์ได้แก่
หมึกทั้งหลาย, หอยทากทะเล, ปู, ปูเสฉวน, แมวน้ำและโลมา ฉลามแปซิฟิก
สลี๊ปเปอร์ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่อมีความยาว 3.7เมตรและตัวผู้
4เมตร มันตั้งท้องนาน 2ปีขึ้นไปและออกลูกครั้งละ 10ตัว
ลูกฉลามเกิดใหม่นั้นยาว 38-42ซม.
[b]4) ฉลามเสือ (Tiger Shark) - Galeocerdo cuvierยาว: ~7.4เมตร
หนัก:
~907.2กก.
ฉลามเสือนั้นอาศัยอยู่ใน
น่านน้ำทั้งใกล้และไกลฝั่งและตั้งแต่ผิวน้ำไปถึงความลึก ~140เมตร
ซึ่งมันอาจจะเดินทางได้ไกลเป็นพันๆกิโลเมตรระหว่างทวีป
ฉลามเสืออายุน้อยนั้นจะมีร่างกายสีเทา,
ท้องสีขาวและลายสีดำบนหลังเหมือนลายเสือ
ซึ่งลายนี้จะจางหายไปเมื่ออายุมากขึ้นและทำให้มันดูเหมือนฉลามขาวมากกว่า
ฉลามเสือตัวที่ใหญ่ที่สุดคือตัวเมียที่ยาว ~7.3เมตร
ฉลามเสือเป็นสัตว์หากินกลางคืนดุร้ายที่ชอบอาศัยอยู่ในน้ำมืดๆขุ่นๆ
แต่มันก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในแม่น้ำและน้ำกร่อยได้
ฉลามเสือเป็นสัตว์สันโดษที่มักจะพบได้มากในน้ำลึกตอนกลางวัน
และเมื่อกลางคืนมาถึง
มันก็ว่ายขึ้นผิวน้ำหรือเข้าฝั่งมาเพื่อจับอะไรก็ตามที่ผ่านสายตามันทำข้าว
เย็นกิน
ซึ่งมันก็มีฟันแบนๆโค้งๆรูปร่างเหมือนเลี่อยที่สามารถตัดกระดองเต่าได้เพื่อ
การนี้โดยเฉพาะ นอกจากเต่าแล้ว อาหารปรกติของฉลามเสือก็ได้แก่
ปลากระดูกแข็ง, หอยสังข์, ปู, นก, ล๊อบส์เตอร์, ปลาสเก็ต, ปลากระเบน,
โลมาหรือแม้แต่คนถ้าเขาโชคร้ายพอที่จะมาขวางทางว่ายน้ำของมัน นอกจากนี้
ฉลามเสือก็ยังจะกินซากสัตว์ตายที่โดยน้ำพัดลงทะเล เช่น หนูตาย,
สัตว์เลี้ยงตายและซากปศุสัตว์อีกด้วย
ของแปลกๆที่เคยพบในกระเพาะของฉลามเสือตัวหนึ่งได้แก่ รองเท้า 9ข้าง,
กลุ่มสุนัข, ใบขับขี่, กีบเท้าวัว, เขากวาง, เกราะนักรบสมัยกลาง,
และสุ่มไก่ที่มีขนไก่ติดอยู่
[b]3) ฉลามขาวยักษ์ (Great White Shark) -Carcharodon carchariasยาว: ~8เมตรหนัก: ~2,268กก.
ฉลามขาวยักษ์เป็นฉลามสปีชีส์สุดท้ายของฉลามวงศ์ Carcharodon
ที่เรารู้จักกันดีในบทวายร้ายในภาพยนตร์เรื่อง
“Jaws” ฉลามขาวยักษ์นั้นอาศัยอยู่ในน้ำที่มีความลึกตั้งแต่ผิวน้ำไปถึง
~1,219.2เมตร
ฉลามขาวยักษ์เป็นปลานักล่าขนาดใหญ่ที่สุดที่ดุร้ายและทรงพลังซึ่งสามารถฆ่า
คนได้ในการดกัดแค่ครั้งเดียว
แต่การกัดคนของมันนั้นไม่ได้มาจากความรักรสชาติมนุษย์ของมัน การศึกษาพบว่า
นักโต้คลื่นและผู้คนที่ว่ายน้ำอยู่ในที่ๆฉลามขาวยักษ์อยู่นั้นได้ไปทำให้มัน
เข้าใจผิดว่าคนเหล่านี้คืออาหารอันโปรดปรานของมัน ซึ่งในการทดลอง
เจ้าฉลามขาวยักษ์ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับหุ่นนักโต้คลื่นปลอมเลย
อาหารอันโปรดปรานของฉลามขาวยักษ์นั้นได้แก่ ปลา เช่น ปลาแซลมอน, ปลาเฮก,
ปลาฮาลิบัต, ปลาเมกเคอเรล, และปลาทูน่า นอกจากนี้
ฉลามขาวยักษ์ยังกินฉลามตัวอื่นๆ, ไขมันวาฬจากซากวาฬ, เต่าทะเล, นก,
แมวน้ำและโลมา การล่าเหยื่อของฉลามขาวยักษ์เป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก
ซึ่งมันจะโจมตีเหยื่อจากข้างใต้ด้วยปากเปิดที่เต็มไปด้วยฟันรูปร่างเหมือน
ลูกธนู ถ้าคุณสนใจจะกินครีบฉลามขาวยักษ์
ขอบอกว่าเลิกคิดซะเถอะเพราะเนื้อของมันนั้นประกอบด้วยปรอทปริมาณมาก
[b]2) ฉลามบาสกิ้ง (Basking Shark) - Cetorhinus maximusยาว: ~12.3เมตรหนัก: ~3,630กก.
เจ้าฉลามยักษ์ใหญ่นี้ถึงจะ
ดูน่ากลัวแต่มันไม่ได้เป็นนักล่ากระหายเลือดเหมือนตัวที่ผ่านๆมา
ฉลามบาสกิ้งเป็นยักษ์ใหญ่ใจดีที่สามารถโตได้ถึง
10เมตรและหนักได้เท่าๆกับเครื่องบินเจ็ท 4ที่นั่ง
มันเป็นนักว่ายน้ำที่เชื่องช้าไปเรื่อยๆโดยการส่ายตัวทั้งตัวซ้าย-ขวาด้วย
ความเร็วแค่ ~4.8กม. ต่อ ชม. เท่านั้น
ฉลามบาสกิ้งสามารถพบได้ใกล้ๆกับผิวน้ำ
แต่บางครั้งมันก็จะลงน้ำลึกไปในช่วงฤดูหนาวเพื่อหลีกเลี่ยงกระแสน้ำเย็น
เฉียบ ฉลามบาสกิ้งเป็นสัตว์ที่กินอาหารขนาดกระจิ๊ดริดขัดกับขนาดร่างกาย
ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่ของมันนั้นได้แก่ แพลงค์ตอน, ไข่ปลา,
ตัวอ่อนและพาราไซส์โค๊ปพอด (<--สัตว์มีกระดองขนาดเล็ก)
ฉลามบาสกิ้งจะกินอาหารโดยการกรองกิน โดยมันจะว่ายน้ำไปด้วยปาก
(ตั้งอยู่ข้างหลังลูกตา) ที่เปิดกว้างและกรองอาหารปริมาณ
~2,000ตันต่อชั่วโมง ซึ่งขนแข็งๆในปากที่เรียกว่า “gill raker”
จะกักพวกแพลงค์ตอนไว้และปล่อยให้น้ำผ่านออกไปทางเหงือก
ตับของฉลามบาสกิ้งนั้นหนักถึง
25%ของน้ำหนักตัวและเนื้อของมันนั้นก็ประกอบไปด้วยน้ำมันปริมาณ ~2,270ลิตร
[b]1) ฉลามวาฬ (Whale Shark) - Rhiniodon typusยาว: 5.5-10เมตรหนัก: 15ตัน
ฉลามวาฬเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำอุ่นทั่วโลกในความลึกตั้งแต่ผิวน้ำ –
700เมตร
มันเป็นยักษ์ใหญ่ใจดีอีกตัวที่กินแต่สัตว์เล็กๆอย่างแพลงค์ตอนและปลาตัวเล็ก
เท่านั้น การล่าเหยื่อของฉลามวาฬนั้นเรียกว่า “cross-flow filtration”
ซึ่งแบ่งเป็น2แบบได้แก่ 1)
การว่ายน้ำเข้าไปในฝูงปลาด้วยปากที่เปิดและส่ายปากไป-มาเพื่องาบเอาปลาเข้า
ไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
วิธีกินเหยื่อนี้ทำให้เจ้าฉลามวาฬกินอะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามา
ซึ่งในบางครั้งก็รวมถึง บู๊ทเก่าๆและขยะจากคน
เพื่อขจัดเจ้าสิ่งไม่ต้องการเหล่านี้
ฉลามวาฬได้พัฒนาความสามารถในการขย้อนกระเพาะอาหารออกมาทางปาก!!!
2) การตั้งตัวตรงและว่ายน้ำเข้าหาฝูงปากด้วยปากเปิดเหมือนวิธีแรก
ฉลามวาฬมีร่างกายสีเทาถึงน้ำตาล, ลายกับจุดสีขาวกระจายทั่วไป,
และใต้ท้องสีขาวซึ่งเป็นการพรางตัวให้เข้ากับแสงและสิ่งของบนพื้นทะเล
ฉลามวาฬตัวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับได้นั้นยาวถึง 12.2เมตร
(แต่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่ามันสามารถยาวได้มากกว่านี้)
ในประเทศเวียดนาม ฉลามวาฬนั้นรู้จักกันในชื่อ “คา-อง” ซึ่งแปลได้ว่า
“ท่านปลา”
[/b]
เครดิต : doghome[/b][/b][/b][/b][/b][/b]
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ